หนังสือแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับบุคคลภายนอก

หนังสือแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับบุคคลภายนอกฉบับนี้ ( “หนังสือแจ้งฯ”) จัดทำขึ้นเพื่อปกป้องสิทธิและความเป็นส่วนตัวในข้อมูลส่วนบุคคล (ตามที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งฯ ฉบับนี้) ของแต่ละบุคคล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกนำไปใช้ภายใต้ขอบเขตที่จำเป็นตามสภาพและขนาดของธุรกิจของบริษัทเอสจี ซากาวะ (ประเทศไทย) จำกัด (“บริษัทฯ”) และตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (เรียกรวมกันว่า “กฎหมายฯ”)
หนังสือแจ้งฯ ฉบับนี้จะมีผลใช้บังคับในวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 และอาจมีการปรับเปลี่ยนหรือแก้ไข (ซึ่งในกรณีดังกล่าว จะมีการแจ้งให้ท่านทราบ) โดยบริษัทฯ จะทบทวนผลการบังคับใช้ของหนังสือแจ้งฯ ฉบับนี้เป็นครั้งคราว
หนังสือแจ้งฯ ฉบับนี้บังคับใช้กับกรณีที่บริษัทฯ กระทำการในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น สำหรับกิจกรรมที่บริษัทฯ กระทำในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้กับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ท่านอาจศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการประมวลผลในกิจกรรมนั้น ๆ ได้จากนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือหนังสือแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท องค์กร หรือผู้ให้บริการที่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของกิจกรรมเหล่านั้นโดยตรง

1. คำนิยามของข้อมูลส่วนบุคคล

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งสามารถใช้เพื่อระบุตัวตนบุคคลดังกล่าวได้ (“เจ้าของข้อมูล”, “ท่าน”) ไม่ว่าจะด้วยข้อมูลนั้นเพียงอย่างเดียวหรือเมื่อประกอบกับข้อมูลอื่น ทั้งนี้ รวมถึงการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบุคคลและการแสดงเจตนาต่อบุคคล และยังรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบของภาพ เช่น รูปถ่ายและคลิปวีดีโอ (รวมถึงกล้องวงจรปิด) และบันทึกเสียง

2. วัตถุประสงค์ของการเก็บ การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

2.1. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมจากช่องทางดังต่อไปนี้

  • ข้อมูลที่ท่านหรือผู้แทนของท่าน ให้ไว้กับบริษัทฯ โดยตรง
  • ข้อมูลที่ลูกค้าและผู้มาติดต่อใช้บริการให้ไว้กับบริษัทฯโดยตรง เช่น ข้อมูลของผู้ติดต่อ ผู้ตราส่ง (Consignor) และผู้รับตราส่ง (Consignee)
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากบริษัทในกลุ่มในเครือ และเครือข่ายโลจิสติกส์ของบริษัทฯ
  • ข้อมูลที่บริษัทฯ ได้รับจากหน่วยงานหรือองค์กรซึ่งเป็นลูกค้าหรือคู่ค้าของบริษัทฯ ที่ท่านทำงานด้วย (ในฐานะกรรมการ ผู้แทน หรือผู้ติดต่อประสานงาน)
  • แอปพลิเคชัน เว็บไซต์ สื่อสังคมออนไลน์ และ/หรือ สื่อประชาสัมพันธ์อื่น ๆ ที่ท่านเลือกใช้เพื่อติดต่อกับบริษัทฯ
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากคู่ค้า หรือพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ เช่น นายหน้า ผู้ให้บริการด้านการจัดส่งพัสดุ ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือตัวแทนโลจิสติกส์ เป็นต้น
  • แหล่งข้อมูลสาธารณะที่เชื่อถือได้

2.2. ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บ

บริษัทฯ อาจจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหลายประเภท ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้และความจำเป็นในการดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึง

  • ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้ เช่น ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ วันเดือนปีเกิด สัญชาติ เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขประจำตัวผู้เสียภาษี หมายเลขโทรสาร หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ชื่อบัญชีผู้ใช้ของสื่อสังคมออนไลน์ (เช่น Line ID) ที่อยู่ที่ติดต่อได้ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาใบอนุญาตขับขี่ สำเนาทะเบียนรถ สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาหนังสือเดินทาง รูปถ่าย เสียง ลายมือชื่อ ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว
  • ข้อมูลลักษณะเฉพาะส่วนบุคคล เช่น สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ สำเนาใบอนุญาต (เช่น ใบอนุญาตประกอบการขนส่งระหว่างประเทศ) ตำแหน่งหน้าที่การงาน
  • ข้อมูลทางการเงิน เช่น บัญชีธนาคาร ข้อมูลการทำธุรกรรม ข้อมูลเครดิตทางการเงิน ข้อมูลการหักภาษี ณ ที่จ่าย วิธีการชำระเงิน และรายละเอียดการชำระเงินอื่น ๆ
  • ข้อมูลอื่น ๆ เช่น ทะเบียนรถยนต์ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้บริษัทฯ เมื่อท่านทำการติดต่อกับบริษัทฯ เช่น ความสนใจและรูปแบบของการบริการ การโต้ตอบกับบริษัทฯ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และช่องทางการสนทนาอื่น ๆ

2.3. วัตถุประสงค์ของการใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อ (1) ปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาในฐานะคู่สัญญา (2) ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือ (3) ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยบริษัทฯ จะใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ (“วัตถุประสงค์ฯ”)

1. วัตถุประสงค์ในการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้า

  1. เพื่อการบริหารการขนส่งสินค้า ซึ่งรวมถึง การวางแผนการขนส่งสินค้า การบรรจุสินค้าเพื่อจัดส่ง การจัดส่งสินค้า การประสานงานติดต่อกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้า ตลอดจนดำเนินการใด ๆ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ลูกค้าได้ร้องขอ
  2. เพื่อการติดตามและรายงานสถานะของการขนส่งสินค้า

2. วัตถุประสงค์ในการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า-ส่งออกสินค้า

  1. เพื่อเป็นตัวแทนของลูกค้าให้การนำเข้าและส่งออกสินค้า ซึ่งรวมถึง การวางแผนการนำเข้า-ส่งออกสินค้า การจัดหาและประสานงานติดต่อกับพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ เกี่ยวกับการนำเข้า-ส่งออกสินค้า ตลอดจนดำเนินการใด ๆ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ลูกค้าได้ร้องขอ
  2. เพื่อดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับพิธีการศุลกากรขาเข้าออก ซึ่งรวมถึง การประสานงานติดต่อกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง จัดเตรียมเอกสารต่าง ๆ ให้แก่หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องพิจารณา การขออนุญาตที่เกี่ยวข้องต่อหน่วยงานภาครัฐเพื่อการนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านสินค้า

3. วัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการคลังสินค้า

  1. เพื่อบริหารจัดการคลังสินค้า
  2. เพื่อบันทึกไว้ในทะเบียนเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบได้ และ
  3. เพื่อการสนับสนุนการปฏิบัติตามกฎหมาย และหลักเกณฑ์ของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

4. วัตถุประสงค์ทางการตลาด

ในกรณีกฎหมายที่เกี่ยวข้องอนุญาตให้ทำได้ และ/หรือ กรณีที่บริษัทฯ ได้รับความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลจากท่าน บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  1. เพื่อนำเสนอข้อมูลและข่าวสารเกี่ยวกับบริการด้านโลจิสติกส์ของบริษัทฯ ทั้งนี้ ในกรณีที่ท่านไม่ประสงค์จะได้รับการติดต่อเกี่ยวกับบริการดังกล่าว ท่านสามารถแจ้งความต้องการ ผ่านช่องทางที่บริษัทฯ กำหนด
  2. เพื่อประมวลผลการบริการ เพื่อปรับปรุงคุณภาพการให้บริการต่อไป และนำเสนอการบริการที่ท่านอาจสนใจ
  3. เพื่อกำหนดรูปแบบ และปรับปรุงกิจกรรมทางการตลาดโดยทั่วไปของบริษัทฯ ให้ดียิ่งขึ้น
  4. เพื่อนำข้อมูลมาใช้ประกอบการจัดทำสื่อโฆษณา และประชาสัมพันธ์ตามช่องทางสื่อต่าง ๆ

5. วัตถุประสงค์อื่น ๆ

  1. เพื่อการลงทะเบียนเปิดบัญชีลูกค้าและสร้างฐานข้อมูล ในการให้บริการด้านโลจิสติกส์ของบริษัทฯ
  2. เพื่อการดำเนินการเกี่ยวกับการทวงถามให้ชำระหนี้
  3. เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยตรงหรือโดยอ้อม
  4. เพื่อการประกอบธุรกิจที่บริษัทฯ มีความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของเจ้าของข้อมูล เช่น เพื่อการพัฒนา ปรับปรุง คาดการณ์และแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเกี่ยวกับการให้บริการของบริษัทฯ
  5. เพื่อสนับสนุนความมั่นคงและความปลอดภัยของบริษัทฯ
  6. เพื่อประเมินและจัดการตามคำร้องต่าง ๆ จากท่าน
  7. เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบต่าง ๆ การวิเคราะห์และจัดทำเอกสารตามคำร้องขอของหน่วยงานภาครัฐ และ หน่วยงานกำกับดูแลต่าง ๆ
  8. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึง การปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการคลังสินค้า ไซโลและห้องเย็น

ในกรณีที่บริษัทฯ มอบหมายให้ผู้ให้บริการภายนอกประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยฐานการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย และความยินยอมของท่าน (หากจำเป็น)

บริษัทฯ จะไม่เปิดเผยหรืออนุญาตให้มีการเปิดเผย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเข้าถึงได้ นอกเหนือไปจากที่กำหนดไว้ในวัตถุประสงค์ฯ เว้นแต่ท่านจะได้ให้ความยินยอมกับบริษัทฯ หรือมีกฎหมายฯ ที่กำหนดให้บริษัทฯ สามารถกระทำได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากท่าน

หากท่านไม่สามารถให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นแก่บริษัทฯ ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา หรือฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย บริษัทฯ จะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาในเรื่องนั้นหรือดำเนินการตามกฎหมายได้

บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายฯ อย่างเคร่งครัด ในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมสำหรับการประมวลผลในกิจกรรมใด ๆ ท่านอาจถอนความยินยอมของท่านได้ทุกเมื่อ

2.4. การแบ่งปันและการเปิดเผยข้อมูล

1. บริษัทฯ จะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ได้รับอนุญาตจากท่าน เว้นแต่การเปิดเผยภายนั้นอยู่ภายใต้ฐานการประมวลผลตามกฎหมายที่เหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น

  1. ถูกกำหนดไว้ในกฎหมายและ/หรือกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
  2. จำเป็นต้องตอบสนองในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินซึ่งคุกคามชีวิต สุขภาพ หรือความปลอดภัยของท่านหรือบุคคลอื่น โดยไม่สามารถขออนุญาตได้ในเวลาที่เหมาะสม ในกรณีนี้บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปิดเผยและวัตถุประสงค์ในการเปิดเผยภายในเวลาที่เหมาะสม
  3. จำเป็นสำหรับการสืบสวนหรือการดำเนินคดี และ
  4. จำเป็นสำหรับการยืนยันรายละเอียดส่วนบุคคลของท่าน และดำเนินการจ่ายเงินตามคำขอที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการต่าง ๆ ซึ่งท่านอาจมีสิทธิหรืออาจร้องขอ
2. เพื่อให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เป็นไปอย่างราบรื่น บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ให้ไว้กับบริษัทฯ แก่ผู้ให้บริการภายนอก ตัวแทน และ/หรือบริษัทในเครือ หรือบริษัทอื่นใดที่เกี่ยวข้อง หรือเปิดเผยแก่หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย เมื่อมีหน้าที่ตามกฎหมาย หรือประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายให้กระทำเช่นนั้น ไม่ว่าจะเพื่อวัตถุประสงค์ฯ ตามที่ระบุไว้ข้างต้นเพียงอย่างเดียวหรือมากกว่านั้น เนื่องจากผู้ให้บริการภายนอก ตัวแทน และ/หรือบริษัทในเครือ หรือบริษัทอื่นใดที่เกี่ยวข้อง หรือหน่วยงานราชการดังกล่าวนี้ อาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในนามของเรา เพื่อวัตถุประสงค์ฯ ตามที่ระบุไว้ข้างต้นเพียงอย่างเดียวหรือมากกว่านั้น ทั้งนี้ บริษัทฯ จะโอนและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายในประเทศดังกล่าวโดยใช้ฐานการประมวลผลเดิมตามที่ได้แจ้งให้ท่านทราบ หรือได้รับความยินยอมจากท่านแล้ว โดยบริษัทฯ จะตรวจสอบให้มั่นใจว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมีการรองรับด้วยมาตรการการคุ้มครองที่เทียบเท่ากับมาตรการการคุ้มครองภายใต้กฎหมายฯ และมาตรฐานของบริษัทฯ
3. เพื่อให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เป็นไปอย่างราบรื่น บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ให้ไว้กับบริษัทฯ แก่ผู้ให้บริการภายนอก ตัวแทน และ/หรือบริษัทในเครือ หรือบริษัทอื่นใดที่เกี่ยวข้อง หรือเปิดเผยแก่หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทย เมื่อมีหน้าที่ตามกฎหมาย หรือประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายให้กระทำเช่นนั้น ไม่ว่าจะเพื่อวัตถุประสงค์ฯ ตามที่ระบุไว้ข้างต้นเพียงอย่างเดียวหรือมากกว่านั้น เนื่องจากผู้ให้บริการภายนอก ตัวแทน และ/หรือบริษัทในเครือ หรือบริษัทอื่นใดที่เกี่ยวข้อง หรือหน่วยงานราชการดังกล่าวนี้ อาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในนามของเรา เพื่อวัตถุประสงค์ฯ ตามที่ระบุไว้ข้างต้นเพียงอย่างเดียวหรือมากกว่านั้น ทั้งนี้ หากมีฐานการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา บริษัทฯ จะโอนและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยฐานการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาดังกล่าวสำหรับการโอนและประมวลผลข้อมูลไปนอกประเทศ อย่างไรก็ดี หากเป็นการโอนหรือการประมวลผลที่ไม่ใช่ฐานการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา บริษัทฯ จะดำเนินการภายใต้ความยินยอมของท่านที่ท่านได้ให้มาในแบบฟอร์มขอความยินยอมสำหรับท่าน โดยบริษัทฯ จะตรวจสอบให้มั่นใจว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมีการรองรับด้วยมาตรการการคุ้มครองที่เทียบเท่ากับมาตรการการคุ้มครองภายใต้กฎหมายฯ และมาตรฐานของบริษัทฯ
4. ในกรณีอื่น ๆ ที่ต้องมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอกภายใต้ฐานการประมวลผลตามกฎหมายที่เหมาะสม รวมถึงความยินยอมที่ชัดแจ้งจากท่าน บริษัทฯ จะพยายามจัดให้มีการกำกับดูแลที่เพียงพอสำหรับการจัดการและบริหารข้อมูลส่วนบุคคลโดยบุคคลภายนอกดังกล่าว เช่นเดียวกับการจัดให้มีแบบฟอร์มที่เพียงพอสำหรับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

3. สิทธิของเจ้าของข้อมูล

3.1. ภายใต้กฎหมายฯ ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลมีสิทธิดังต่อไปนี้ (ซึ่งอาจมีการปรับปรุงแก้ไขให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ใด ๆ ที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด) โดยการใช้สิทธิดังกล่าว ต้องเป็นไปตามที่กฎหมายฯกำหนด

  • สิทธิในการถอนความยินยอม
  • สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
  • สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
  • สิทธิในการขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
  • สิทธิในการระงับใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
  • สิทธิในการขอถ่ายโอนข้อมูล
  • สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
3.2. ในการดำเนินการตามสิทธิของท่านในข้อนี้ บริษัทฯ จะสามารถพิจารณาดำเนินการให้ท่านได้เฉพาะกับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ประมวลผลในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่านั้น สำหรับการใช้สิทธิของท่านในข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในกิจกรรมใดในฐานะของผู้ประมวลผลข้อมูลของผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น บริษัทฯ จะดำเนินการแจ้งผู้ควบคุมข้อมูลรายดังกล่าว เพื่อให้พิจารณาดำเนินการตามสิทธิของท่านในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป

4. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

4.1. หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับหนังสือแจ้งฯ ฉบับนี้ หรือประเด็นอื่นใดเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อมาตามข้อมูลติดต่อที่ระบุไว้ด้านล่างนี้

บริษัทฯ:
ชื่อ:
SG Sagawa (Thailand) Co., Ltd.
ที่อยู่:
138 Moo 5 Tiwanon Rd., Bang Kadi, Pathum Thani District, Pathum Thani 12000
โทร:
02-501-1281-8
อีเมล:
sgt-info@sgh-global.com
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล:
ชื่อ:
[พิมพาวัน ไวปัญญา] [CMHM to SG: Please confirm the spelling.]
ที่อยู่:
138 Moo 5 Tiwanon Rd., Bang Kadi, Pathum Thani District, Pathum Thani 12000
โทร:
02-501-1281-8
อีเมล:
sgt-info@sgh-global.com
4.2. โปรดระบุรายละเอียดการติดต่อของท่าน เมื่อมีการร้องเรียนหรือขอใช้สิทธิเรียกร้อง เพื่อให้บริษัทฯ สามารถติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด
4.3. บริษัทฯ ไม่คิดค่าธรรมเนียมในการติดต่อเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน แต่อาจมีค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินการตามคำขอภายใต้ กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งนอกเหนือไปจากคำขอเกี่ยวกับการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของให้ถูกต้อง

5. ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

5.1. บริษัทฯ มีหน้าที่ในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาหนึ่งนับจากวันที่สิ้นสุดความสัมพันธ์กับท่าน ด้วยเหตุผลในทางกฎหมายเป็นหลัก รวมถึงวัตถุประสงค์อื่น เช่น เพื่อให้สามารถให้ข้อมูลอ้างอิง หรือเพื่อเหตุผลทางการเงิน
5.2. บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายและธุรกิจ และบริษัทฯ จะเลิกเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นทันทีหากพิจารณาแล้วเห็นสมควรว่าข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว นั้นไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแล้ว และไม่จำเป็นต่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายและทางธุรกิจอีกต่อไป ปัจจุบัน นโยบายของบริษัทฯ คือ บริษัทฯ อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาถึงสิบ (10) ปี ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจพิจารณาดำเนินการตามกระบวนการจัดทำข้อมูลนิรนาม (anonymization) ที่สอดคล้องกับนโยบายการเก็บรักษาและการทำลายเอกสารของบริษัทฯ หนังสือแจ้งฯ ฉบับนี้ และกฎหมาย